Atlas Reactor เทคนิคการเล่น Nix ตัวละครลึกลับที่ไม่มีใครรู้จักชื่อหรือแม้กระทั้งหน้าตาที่แท้จริงของเขา แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในเมือง Atlas จากความสามารถของนักแม่นปืนที่ไม่เคยพลาดเป้าด้วยอาวุธคู่กายอย่างปืนไรเฟิล และชุดคลุมล่องหน
Nix – The Liberator
ประเภท: Firepower
พลังชีวิต: 120
การเคลื่อนไหว: 4
Ability
Headshot ยิงกระสุนใส่เป้าหมายในระยะ 9 ช่อง
สถานะ: Blast Phase
คูลดาวน์: ไม่มี
พลังโจมตี: 34
ความเสียหาย: ระยะ 9 ช่อง
พลังงาน: ได้รับพลังงาน 12 หน่วย/เป้าหมาย
Mods
Zero In: ระยะการโจมตีเพิ่มขึ้น 1 ช่อง
Spotter: ถ้าเป้าหมายอยู่ในระยะ 6 ช่องขึ้นไป ความเสียหายเพิ่มขึ้น 4 หน่วย
Hard Core: กระสุนทะลุเป้าหมายแรกไปโดนเป้าหมายที่ 2 แต่ความเสียหายลดลง 12 หน่วย
Hight Energy Rounds: ได้รับพลังงานเพิ่มขึ้น 5 หน่วย
Stalker Suit ทำให้ตัวละครล่องหนจนจบเทิร์น แต่ถ้าใช้สกิลอื่นโจมตีจะทำให้ศัตรูมองเห็นชั่วขณะ
สถานะ: Prep Phase
คูลดาวน์: 5 เทิร์น
พลังโจมตี: –
ความเสียหาย: –
พลังงาน: ได้รับพลังงาน 8 หน่วย/เป้าหมาย
Mods
Field Triage: ฟื้นฟูพลังชีวิต 10 หน่วย
Electromagnetic Assistance: Energized จนจบของเทิร์นถัดไป
Disengage: เพิ่ม Haste จนจบของเทิร์นถัดไป
Resilient Suit: สกิลจะถูกรีเซ็ตเมื่อพลังชีวิตต่ำกว่า 40%
Overwatch Drone ใช้โดรนสร้างแสงเลเซเป็นเส้นตรงในทิศทางที่ต้องการ จะสร้างความเสียหายแก่ศัตรูตัวแรกที่เดินผ่าน
สถานะ: Prep Phase
คูลดาวน์: 2 เทิร์น
พลังโจมตี: 30 หน่วย
ความเสียหาย: ระยะ 9 ช่อง
พลังงาน: ได้รับพลังงาน 10 หน่วย/เป้าหมาย
Mods
Watchful Eye: เพิ่มระยะเวลาของโดรนขึ้น 1 หน่วย
High Velocity Round: พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 4 หน่วย
Ammo Replication: สร้างความเสียหายแก่ศัตรูทุกตัวที่เดินผ่าน
Drone Network: มีโอกาสเรียกใช้โดรนได้อีกครั้ง
Vortex Round ยิงกระสุนแล้วระเบิดใส่เป้าหมายสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างและทำให้เป้าหมายเคลื่อนที่ช้าลง
สถานะ: Blast Phase
คูลดาวน์: 5 เทิร์น
พลังโจมตี: 30/20 หน่วย
ความเสียหาย: ระยะ 9 ช่อง สร้างความเสียหายรอบๆ 5×5
พลังงาน: ได้รับพลังงาน 8 หน่วย/เป้าหมาย
Mods
Nova: พลังโจมตี spash เพิ่มขึ้น 5 หน่วย
Riot Round: ทำเป้าหมายอ่อนแอลงในเทิร์นถัดไป
Taser Round: ความเสียหายของสกิลจะทำให้เป้าหมายทุกตัวจะเดินช้าลง
Crippling Shot: มีโอกาสทำให้เป้าหมายเดินช้าลงในเทิร์นถัดๆไป
Fusion Pulse กำหนดทิศทางเพื่อยิงกระสุนใส่เป้าหมายสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงและทะลุผ่านกำแพงหรือสิ่งกีดขวางได้
สถานะ: Blast Phase
คูลดาวน์: –
พลังโจมตี: 50 หน่วย
ความเสียหาย: ระยะ 9 ช่อง
พลังงาน: ใช้พลังงาน 100 หน่วย
Mods
Phosphorescent Residue: เป้าหมายที่ถูกโจมตีจะถูกเปิดเผยในเทิร์นถัดไป
Focused Beam: ระยะของสกิลเพิ่มขึ้น 2 ช่อง
Extraction Plan: มีโอกาสติดสถานะล่องหนจนจบของเทิร์นถัดไป
Reaper Shells: พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 10 หน่วย หากโจมตีใส่เป้าหมายที่พลังชีวิตต่ำกว่า 50%
เทคนิคการเล่นเบื้องต้น
ในบรรดาตัวละครสาย FIREPOWER ตัวละคร Nix มีพลังโจมตีสูงที่สุด แต่พลังชีวิตต่ำ กลยุทธ์การเดินเกมจึงต้องจัดวางตำแหน่งที่ปลอดภัยสไตล์การซุ่มโจมตี ซึ่งตำแหน่งที่ดี และเหมาะแก่การโจมตีมักประจำอยู่ด้านหลังเพื่อนร่วมทีมเสมอ โดยใช้ประโยชน์จากกำแพงหรือสิ่งกีดขวางคอยหลบซ่อนหรือถ้าอีกฝ่ายโจมตีจะช่วยลดความเสียหายลงกึ่งหนึ่ง แต่หากอีกฝ่ายพบตำแหน่งของตัวละครควรเลือกเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ทันทีในเทิร์นถัดไป เพื่อลดการถูกมองเป็นเป้าหมายแรกที่อีกฝ่ายจ้องจะกำจัด
จากความได้เปรียบของตัวละคร Nix ที่สามารถโจมตีได้ในระยะไกลประกอบกับมีพลังโจมตีที่รุนแรง ปกติจะเน้นสร้างความเสียหายแก่ศัตรูอย่างต่อเนื่อง ผู้เล่นส่วนใหญ่จึงนิยมใช้กลยุทธ์การซุ่มโจมตี โดยใช้ความสามารถของสกิล Stalker Suit ล่องหนก่อนแล้วใช้สกิล Headshot โจมตีใส่เป้าหมาย ในช่วงเริ่มเกมต้องเคลื่อนที่อยู่ตลอดในทุกๆ เทิร์นเพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในการโจมตีศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากเราดูสกิลทั้งหมดของตัวละคร Nix จะเห็นว่าไม่มีสกิลประเภท Dash Phase เลย นั้นหมายความว่าถ้าติดอยู่ในวงล้อมของศัตรูเมื่อไหร่โอกาสรอดแทบจะไม่มี นอกเสียจากจะมีตัวละครสาย Support คอยช่วยเหลือ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ประโยชน์จากการติดตั้งโหมดเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่สกิลอย่าง Fusion Pulse ด้วยโหมด Reaper Shells ที่สร้างความเสียหายแก่เป้าหมายได้รุนแรงขึ้นกว่าปกติและมีโอกาสพลิกเกมกลับมาชนะได้
