5.Skyforge มหาศึกเทพเจ้า
เกมส์ Next-gen MMORPG ผลงานยักษ์ระดับมาสเตอร์พีซ โดยสองพันธมิตรรัสเซีย-อเมริกา Allods Team และ Obsidian Entertainment ที่มาพร้อมความสดใหม่ของฉาก และธีมแนวไซไฟ-แฟนตาซี โดยจับเอาเรื่องของเทพเจ้ามาผสมกับเทคโนโลยีสุดไฮเทคได้อย่างลงตัว เรียกว่าค่อนข้างจะฉีกไปจากแนวทางเดิมๆ อยู่ไม่น้อย แม้ระบบแปลงร่างจะหาได้ในเกมส์อีกดาษดื่น แต่ก็มีแค่ Skyforge นี่แหละที่ยอมให้เกมเมอร์ได้เป็นพระเจ้าอย่างแท้จริง ซึ่งก็ต้องชมระบบการสร้างตัวละครที่เปิดให้พัฒนากันได้อย่างไร้ข้อจำกัด เรียกว่าจะเลือกเดินสายไหนถือว่าไม่แตกต่างกันมาก เพราะมีคลาสย่อยรองรับอยู่ถึง 13 อาชีพด้วยกัน ส่วนการอัพเวลก็ไม่ต้องพึ่งค่า EXP เพียงแค่ทำเควสต์ให้ผ่าน และหาไอเทมสำคัญมาสวมให้ได้ตามที่ระบบกำหนด และไม่ต้องกลัวว่าเจอสัตว์ประหลาดยักษ์แล้วจะเอาชนะไม่ได้ เพราะระบบต่อสู้มีความยืดหยุ่นสูง และปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาให้ปล่อยสกิลและทำคอมโบได้แบบไม่ยั้ง ถ้าร่างมนุษย์สู้ไม่ผ่านก็แปลงร่างเป็นเทพจัดเต็มกันไปซะก็สิ้นเรื่อง และที่สำคัญ ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ได้ถูกถ่ายออกทอดออกมาสู่ภาพกราฟิกได้อย่างอลังการสมจริงเหนือระดับเกมส์ทั่วไปแบบไม่เห็นฝุ่นด้วยขุมพลัง Unreal Engine 4 ด้วยความโดเด่นทั้งภาคเนื้อหา ส่วนกราฟิก ระบบสร้างตัวละคร และระบบการต่อสู้ ทำให้ Skyforge ทะยานขึ้นมาติดอันดับสุดยอดเกมส์ MMORPG แบบ Free-2-Play ใน 5 อันดับแรกได้แบบไม่ยากเย็น
4.TERA
TERA: the Exiled of Arborea สุดยอดเกมส์แฟนตาซี MMORPG ที่มีคนเล่นมากที่สุดบน Steam โดยผลงานการสร้างของ En Masse Entertainment ซึ่งเกิดจากความคิดริเริ่มที่จะยกระดับตัวองให้หลุดจากวังวนเดิมๆ ของเกมส์แนวนี้ TERA ได้นำเอาฟีเจอร์ใหม่หลายตัวเข้ามาเสริมอย่างถูกจุด และลงตัว พัฒนามาเป็นเกมส์ MMORPG ตัวแรกที่มีระบบต่อสู้อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร เพียงแค่เริ่มเข้าสู่โลกแห่ง Arborea ผู้เล่นก็ต้องสะดุดกับกราฟิกอาร์ตของฉากหลัง และสภาพแวดล้อมในเกมที่เนรมิตออกมาได้อย่างมีเสน่ห์เหลือล้นจนถูกยกให้เป็นเกมส์ภาพสวยขั้นเทพอีกหนึ่งเกมส์ แม้ระบบสร้างตัวละครจะยังย่ำอยู่กับที่เดิมคือเน้นเรื่องของสกิลเป็นหลัก แต่ระบบการต่อสู้ที่ต้องปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาจนทำให้ผู้เล่นแทบจะไม่ได้หยุดพักกันเลย รวมทั้งคอนเทนท์ที่ใส่เข้ามาอย่างเข้มขั้นทั้งโหมด PvP ระบบดัน รวมทั้งการดูแลอัพเดทเนื้อหาอย่างตลอดเนื่องตลอดเวลาเกือบ 5 ปีตั้งแต่เปิดให้บริการ ก็ทำให้ TERA กลายเป็นเกมส์ฮิตถล่มทลายที่หลายจนมีหลายเกมส์ลอกสูตรสำเร็จตามมาอีกเกลื่อนทีเดียวในช่วง 2- 3 ปีหลัง
3.Aion
อาจไม่ใช่เกมส์ MMORPG ที่ฮิตถล่มทลายอะไรมากมาย แต่ Aion ก็ยังเป็นเกมส์ MMORPG รุ่นเดอะที่มีฐานแฟนเกมส์เกาะติดอย่างเหนียวแน่นมาอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 7 ปี และแน่นอนว่า Aion ไม่ได้มีดีแค่การเป็นเกมส์ที่เปิดให้เล่นฟรีตลอดชีพ เพราะต้องยกเครดิตกับทีมผู้สร้างที่ทำให้ให้ระบบปรับแต่งตัวละครมีความหลากหลาย อาชีพหลักถูกซอยแบ่งเป็นคลาสย่อยให้เลือกปั้นกันจนเลือกไม่ถูก แต่ก็สามารถที่จะใช้งานได้สะดวก และไม่ซับซ้อนจนเกินงาม บวกกับคุณภาพกราฟิกที่ตรึงตาเร้าใจ เริ่มสร้างความประทับใจกันตั้งแต่ฉาก cut scene ที่ให้รายละเอียดอย่างลงลึกทุกองค์ประกอบเพื่อความสมจริงที่สุด ไปจนถึงฉากป่า ดันเจี้ยนหรือเมืองต่างๆ ซึ่งทำให้แค่การพาตัวละครเดินสำรวจผ่านสภาพแวดล้อมไปอย่างเดียวก็นับเป็นความเพลิดเพลินกันได้แล้ว ที่สำคัญ เนื้อหาในเกมส์ที่มีขนาดใหญ่จนไม่สามารถสำรวจกันได้ในเวลาแค่ไม่กี่วัน ก็นับว่าเป็นจุดแข็งที่ทำให้ Aion พุ่งขึ้นมาติดชาร์จเกมส์ยอดนิยมได้ไม่ยาก หากจะมีเกมส์ไหนที่ปลดล็อกทุกฟีเจอร์ให้เล่นได้โดยไม่ต้องเสียเงินก็เห็นจะมี Aion นี่เองที่เหมาะสมจะเป็นสุดยอดเกมส์ MMORPG ตลอดกาล แม้จะมีบางฟีเจอร์ที่ต้องใช้เงินก็เถอะ
2.Neverwinter
สร้างขึ้นโดยอิงเนื้อหาต่อยอดมาจากเกมส์ระดับตำนานอย่าง Dungeons and Dragons ทำให้ Neverwinter เป็นอีกหนึ่งเกมส์แอ็คชั่น MMORPG แนวต่อสู้ลงดันแบบ Free to Play ที่ก้าวขึ้นมานั่งอยู่ในหัวใจแฟนเกมส์ทั่วโลกได้ไม่ยาก ยิ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเอาตัวรอดหลังวันสิ้นโลกซึ่งเป็นธีมที่ถูกใจคอเกมส์ส่วนใหญ่แล้วด้วย ทำให้ Neverwinter ยังได้รับความสนใจอยู่อย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากมีการอัพเดทใหญ่กันมาแล้วถึง 8 ครั้ง โดยเฉพาะที่หลายคนยกนิ้วให้กับระบบสร้างคาแรกเตอร์ตัวละครซึ่งเปิดกว้างอย่างชนิดที่แทบเรียกได้ไร้ขีดจำกัดใดๆ และถึงแม้ดีไซน์อาร์ตต่างๆ จะไม่ทำให้ภาพกราฟิกดูเหนือหรือแตกต่างจากเกมส์อื่นมากนัก แต่ความที่ตัวเกมส์มีคอนเทนท์มากมายอัดแน่นให้เลือกเล่นกันได้ไม่ซ้ำผ่านทางระบบปรับแต่งเควสต์ได้เอง ยิ่งทำให้ตัวเควสต์ที่ถูกปรับเมื่อรวบกับระบบต่อสู้ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดมีความน่าสนใจ และเพิ่มความท้าทายชวนให้น่าเล่นเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า ยิ่งกว่านี้ฉากหลังและสภาพแวดล้อมที่ดีไซน์ออกมาได้น่าดึงดูดก็ขับให้ตัวเกมส์มีเสน่ห์เพิ่มขึ้นได้อีกไม่น้อย แต่เสียอย่างเดียวที่ระบบ cash shop ยังทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้เล่นแบบเสียเงิน และใช้เงินเล่นอยู่มาก ทำให้มาสุดแค่อันดับที่ 2 บนชาร์ตนั่นเอง
1.Wildstar
เพิ่งจะปรับเปลี่ยนมาให้เล่นฟรีกันเมื่อเร็วๆ นี้เอง แต่นั่นก็ไม่ใช้ข้อได้เปรียบที่ทำให้ Wildstar เกมส์น้องใหม่ล่าสุดจากค่ายยักษ์ Nsoft ทะยานขึ้นแท่นเบอร์ 1 เกมส์ MMORPG แบบ Free-2-Play ที่ดีที่สุดในเวลานี้ Wildstar มีความโดดเด่นที่นำเอาทุกฟีเจอร์สำคัญมารวมกันไว้อย่างครบครัน และทำออกมาได้อย่างแทบไม่มีข้อบกพร่องใดๆ เริ่มเข้าเกมส์ก็จะพบกับความประทับใจยากจะลืมทันทีกับภาพกราฟิกที่สวยเฉียบตรึงใจ แม้อาจจะไม่ถูกใจไปเสียทุกคน แต่ Wildstar ก็มีระบบการต่อสู้ที่เกมเมอร์ส่วนใหญ่ยกให้เป็นหัวแถวกับความลื่นไหลของระบบที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะแอ็คชั่นการต่อสู้ที่เนียนกริบ และทรงพลังสมจริงสุดๆ
ขณะที่การสร้างตัวละครก็แทบจะให้อิสระในการปั้นแต่งกันเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้ว ภาคเนื้อหาที่อัดแน่นเข้มข้น และมีความหลากหลายก็เป็นอีกจุดที่ทำให้ Wildstar ได้คะแนนความนิยมไปไม่น้อย เรียกว่ามีอะไรให้ทำเยอะจนเลือกไม่ถูก แม้เวลจะตันแล้วก็ยังไม่มีทางทำได้หมด โหมดการเล่นก็มีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งลงดัน แบบเรด PvP และฟีเจอร์คลาสสิคที่เกมส์ MMORPG ควรจะมีก็มีอยู่ใน Wildstar ครบถ้วน แต่การที่ตัวเกมส์ไม่เปิดให้สร้างกิลด์หรือสร้างตัวละครได้มากกว่าหนึ่งตัวก็ทำให้เกมส์เสียคะแนนความนิยมไปบ้าง รวมทั้งยังมีการจำกัดบางประการสำหรับผู้เล่นที่ไม่ต้องการเสียเงิน แต่เหนืออื่นใด เนื้อเรื่องที่สนุก และเควสต์ที่ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาก็ทำให้ Wildstar ยึดเบอร์ 1 ไปครองได้แบบไร้ที่ติ
***ข้อมูลจาก 2p.com***