เตรียมพบเราในนรกใน 6 มิถุนายน 2023! Diablo IV ของ Blizzard Entertainment เปิดให้ซื้อล่วงหน้าแล้ว

Diablo IV เกมยุคถัดไปของซีรีส์ที่เบิกทางเกมแนวใหม่จาก Blizzard Entertainment จะวางจำหน่ายใน 6มิถุนายน 2023  Diablo IV จะมาพร้อมกับระบบการเล่นข้ามแพลตฟอร์มและการซิงค์ความก้าวหน้าข้ามแพลตฟอร์มสำหรับพีซีระบบ Windows^® คอนโซล Xbox Series X|S, Xbox One, PlayStation^®5, PlayStation^®4 และระบบเล่นด้วยกันผ่านเครื่องเดียวกันบนคอนโซลตั้งแต่วางจำหน่ายด้วย

“พวกเราตื่นเต้นมากที่จะได้เปิดประตูสู่โลกศักดิ์สิทธิ์ที่โหดที่สุดให้ทุกคนได้สัมผัสเร็วๆ นี้ใน Diablo IV” ร็อด เฟอร์กุสสัน (Rod Fergusson) ผู้จัดการทั่วไปของแฟรนไชส์ Diablo กล่าว “เราได้นำความมืดมิดจากเกมต้นฉบับมารวมกับองค์ประกอบความก้าวหน้าของ Diablo II และการต่อสู้อันดุเดือดจาก Diablo III จนเกิดเป็นโลกที่กว้างใหญ่และไม่หยุดนิ่งของ Diablo IV ที่จะได้รับการสนับสนุนต่อไปอีกหลายปี ผู้เล่นจะมีตัวเลือกมากกว่าที่เคยเพื่อใช้ต่อสู้กับภัยร้ายสุดสยองขวัญ สำรวจดันเจี้ยน สะสมสมบัติระดับตำนาน และค้นพบว่าการกลับมาของ Lilith (ลิลิธ) มารดาผู้ได้รับพรนั้นส่งผลต่อโลกศักดิ์สิทธิ์อย่างไร”

ปีศาจลิลิธและเทวทูต Inarius (อินาเรียส) ได้ร่วมกันสร้างโลกศักดิ์สิทธิ์จากความต้องการที่จะหลบหนีจากความขัดแย้งชั่วนิรันดร์ระหว่างสวรรค์และนรก แต่หลายทศวรรษผ่านไปหลังเหตุการณ์ของ Diablo III: Reaper of Souls^® ทั้งสองก็กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่ส่งสาวกของตนเข้าห้ำหั่นกัน ดินแดนของโลกศักดิ์สิทธิ์ถูกปกครองไปด้วยเหล่าปีศาจมากมาย และจะมีเพียงแต่กลุ่มวีรบุรุษผู้แน่วแน่เท่านั้นที่จะสามารถต่อกรกับความมืดมิดนี้ได้ ผู้เล่นจะมีตัวเลือกห้าคลาสให้ได้เล่นในโลกนี้ ได้แก่ Druid (ดรูอิด) ผู้มีพลังเปลี่ยนร่าง Rogue (โร้ก) ผู้ว่องไว Sorceress (ซอร์เซอเรส) ผู้ใช้พลังธาตุ Barbarian (บาร์บาเรียน) ผู้เหี้ยมโหด และ Necromancer (เนโครแมนเซอร์) ผู้มากด้วยเล่ห์เหลี่ยม เมื่อผู้เล่นได้พลังมากขึ้น ก็จะยิ่งสร้างประสบการณ์การเล่นในรูปแบบที่ตัวเองต้องการได้มากขึ้นด้วยการใช้ผังทักษะเพื่อใช้เวทมนตร์และความสามารถที่มี

เกมนี้เป็นครั้งแรกที่จักรวาล Diablo จะมีแผนที่โลกที่กว้างใหญ่ ผู้เล่นจะได้ต่อสู้เพื่อขับไล่ปีศาจจากนรกในโซนที่แตกต่างกันของโลกศักดิ์สิทธิ์อย่างป่าที่ปกคลุมด้วยหิมะของ Fractured Peaks (ยอดเขาร้าว) ที่ราบสูงลมแรงของ Scosglen (สกอส์เกลน) หนองน้ำของ Hawezar (ฮอว์ซาร์) ดินแดนรกร้างของ Dry Steppes (ทุ่งหญ้าสเตปป์แล้ง) และทะเลทรายของ Kehjistan (เคจิสถาน) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของ Caldeum (คาลเดียม) ประสบการณ์ที่ไม่เป็นเส้นตรงนี้จะประกอบไปด้วยเรื่องราวสุดยิ่งใหญ่ที่น่าติดตาม ดันเจี้ยนกว่า 140 แห่ง เควสต์เสริม และสมบัติเป็นกองพะเนิน บอสโลกสุดแกร่งจะปรากฏตัวท้าทายให้ผู้เล่นจับกลุ่มกำจัดมันเพื่อรับสมบัติมากมาย และฐานที่มั่นต่างๆ ก็กำลังเฝ้ารอให้นักเดินทางผู้กล้าหาญเข้ามายึดคืนให้กับประชากรของโลกศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง

อีกระบบที่จะยกระดับประสบการณ์ ARPG ระดับโลกนี้คือระบบท้ายเกมที่ล้ำลึก โดยผู้เล่นจะสามารถเพิ่มพลังของตนเองได้อย่างต่อเนื่องด้วยการทำการท้าทายต่างๆ ตั้งแต่ Helltide (เฮลไทด์) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะเพิ่มปีศาจในโลกศักดิ์สิทธิ์อย่างเป็นประจำ Nightmare Dungeon (ไนท์แมร์ดันเจี้ยน) ที่ดุเดือดและท้าทายยิ่งขึ้น ระบบ Paragon Board (พารากอนบอร์ด) ที่อัพเดตใหม่เพื่อให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งพลังได้อย่างต่อเนื่อง Whispers of the Dead (เสียงเพรียกของคนตาย) ที่จะให้รางวัลระดับตำนานกับการล่าค่าหัวโลกบางชนิดและ Fields of Hatred (ทุ่งแห่งความเกลียดชัง) ซึ่งเป็นสถานที่ในการสร้างชื่อเสียงจากการ PvP

Edition ต่างๆ และโบนัสการซื้อล่วงหน้า

Diablo IV นั้นเปิดให้ซื้อแบบดิจิทัลล่วงหน้าได้แล้วในรูปแบบ Standard Edition (69.99 ดอลลาร์สหรัฐ), Deluxe Edition (89.99 ดอลลาร์สหรัฐ), และ Ultimate Edition (99.99 ดอลลาร์สหรัฐ) การซื้อแบบดิจิทัลแต่ละ Edition จะให้รางวัลที่คุณสามารถใช้ต่อกรกับปีศาจจากนรกในโลกศักดิ์สิทธิ์ได้ดังนี้

• Standard Edition: ประกอบด้วยสิทธิ์การเล่นช่วงโอเพ่นเบต้าล่วงหน้า^* พาหนะ Light Bearer (ไลท์แบเรอร์) ใน Diablo IV, Inarius Wings (ปีกอินาเรียส) และสัตว์เลี้ยง Inarius Murloc (เมอร์ล็อคอินาเรียส) ใน Diablo^® III^** พาหนะ Amalgam of Rage (อะมัลกัมเกรี้ยวกราด) ใน World of Warcraft^®** และชุดของตกแต่ง Umber Winged Darkness (ความมืดใต้ปีกน้ำตาลแดง) ใน Diablo Immortal^™**
• Deluxe Edition: ประกอบด้วยไอเท็มทั้งหมดใน Standard Edition และสิทธิ์การเล่นล่วงหน้าก่อน Diablo IV เปิดให้เล่นจริง 4 วัน^*** และปลดล็อค Seasonal Battle Pass (แบทเทิลพาสรายฤดูกาล) ใน Diablo IV, เกราะพาหนะ Hellborn Carapace (เกราะเฮลล์บอร์น) ใน Diablo IV และพาหนะ Temptation (เทมป์เทชัน) ใน Diablo IV
• Ultimate Edition: ประกอบด้วยไอเท็มทั้งหมดใน Deluxe Edition และปลดล็อค Accelerated Seasonal Battle Pass (แบทเทิลพาสรายฤดูกาลแบบเร่ง) ใน Diablo IV (ปลดล็อคแบทเทิลพาสพรีเมียมรายฤดูกาล พร้อมข้ามระดับแบทเทิลพาส 20 ระดับและของตกแต่ง) และท่าทาง Wings of the Creator (ปีกของผู้สร้าง) ใน Diablo IV

แฟนตัวยงยังสามารถซื้อ Diablo IV Limited Edition Collector’s Box^**** (US$$96.66) ที่จะมาพร้อมกับ Candle of Creation (เทียนของผู้สร้าง) สองด้านแบบไฟฟ้า แผนที่โลกศักดิ์สิทธิ์แบบผ้า แผ่นรองเมาส์ออคคัลท์ เข็มกลัดโฮราดริม งานพิมพ์ภาพด้านสองภาพ (18.54 นิ้ว x 10.79 นิ้ว) และหนังสือภาพ Diablo IV Collector’s Edition ให้คุณได้สะสม การซื้อล่วงหน้าจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม (ตามเวลาประเทศไทย) ที่ร้านอุปกรณ์ Blizzard (Blizzard Gear Store) และร้านที่ร่วมรายการในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Website

อ่านข่าวเกม Diablo IV คลิกที่นี่