หากย้อนกลับไปสักประมาณ 10 กว่าปี นับเป็นช่วงเวลาที่กระแสเกมแนว MMORPG มาแรงจนทำให้เกมเมอร์หลายๆ คนติดกันงอมแงม เพราะมีตัวเลือกไม่มากนัก และเป็นธรรมดาเมื่อได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายย่อมมีเกมใหม่ๆ ประเภทเดียวกันออกสู่สายตาชาวโลกมากขึ้น ทำให้ช่วงหลังๆ กำลังกลายเป็นทางตันของเกม MMORPG ที่มีเป้าหมายแค่เก็บเลเวลตีมอนสเตอร์แบบไร้จุดหมายต่างกันแค่เนื้อหา และภาพกราฟฟิกที่ได้อนิสงค์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จนเกมออนไลน์ใหม่ๆ หลายเกมต้องปรับตัวเพื่อหาทางออกไปสู่อนาคตที่สดใส
ระบบเกมแบบเดิมๆ ขาดความแปลกใหม่
สำหรับคนที่เล่นเกมแนว MMORPG เป็นครั้งแรกในชีวิตย่อมได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ส่วนคนที่เป็นสาวกเกมแนว MMORPG มานานหลายปีย่อมสั่งสมประสบการณ์การเล่นของระบบต่างๆ ภายในเกมมาอย่างดี จึงเป็นเรื่องปกติที่คนเล่นกลุ่มนี้มักแสวงหาเกมออนไลน์ใหม่ๆ เพื่อหวังจะได้รับประสบการณ์ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เพราะในโลกของเกมออนไลน์ ระบบเกมที่แปลกใหม่จะทำให้เกิดความแตกต่างจากเกมออนไลน์ทั่วไป แต่หลายครั้งต้องผิดหวังกับระบบการเล่นแบบเดิมๆ ทำให้ผู้เล่นเกิดความเบื่อหน่าย
เวลาเล่นน้อยลง
คนเล่นเกมแนว MMORPG มาก่อนมักเคยมีประสบการณ์ของการใช้เวลาเล่นเกมนานหลายชั่วโมงเป็นประจำทุกวัน บางคนเล่นหามรุ่งหามค่ำไม่หลับไม่นอนเพียงเพราะจุดประสงค์บางอย่าง แต่คงไม่เกินเลยไปกว่าเป้าหมายการอัพระดับเลเวลของตัวละครให้สูงที่สุด โดยพื้นฐานของเกมออนไลน์ระดับเลเวลจัดเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นได้เปรียบผู้เล่นที่มีระดับเลเวลต่ำกว่า แต่ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ที่ทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่หันหลังให้เกมแนว MMORPG มันเป็นเรื่องของการใช้เวลาที่ไม่คุ้มค่า มีเวลาเล่นน้อยลง จึงต้องหันไปเล่นเกมประเภทอื่นที่ใช้เวลาเล่นไม่นานอย่างเกมแนว MOBA หรือเกมที่เน้นการแข่งขันจบแมชท์แล้วเริ่มใหม่
หมดยุค Air Time
ปัจจุบันเกมออนไลน์แนว MMORPG ที่ใช้โมเดลธุรกิจแบบ Air Time หรือการจ่ายเงินก่อนเข้าถึงเกมทั้งแบบรายเดือนหรือรายปีแทบจะไม่มีให้เห็นอีกแล้ว เพราะความคาดหวังของผู้เล่นลดลงไม่กล้าเสี่ยงกับเกมไม่มีอนาคตที่แน่นอน แต่ในทางกลับกันเกมออนไลน์ที่ยังคงใช้โมเดลธุรกิจแบบนี้อยู่ต้องเจ๋งพอที่จะทำให้ผู้เล่นบางกลุ่มยอมควักกระเป๋าจ่ายแทบทุกเดือนอย่างเกม WOW ที่มีเนื้อหาเสริมให้ติดตามกันทุกปี อย่างไรก็ตามเกมออนไลน์หลายๆ เกมพยายามปรับตัวหันมาใช้รูปแบบการให้บริการแบบ Free to play ทำให้ผู้เล่นเกมสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ก็นำมาซึ่งปัญหาที่เรียกว่า Pay to win อยู่บ่อยครั้ง
อิทธิพลของเกมมือถือ
จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมบนอุปกรณ์พกพาอย่างมือถือสมาร์ทโฟนได้สะดวกมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่ในที่เดิมๆ แต่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศการเล่นเกมได้ตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือสวนสาธารณะ เมื่อจำนวนผู้เล่นใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้นการพัฒนาเกมออนไลน์ใหม่ๆ ลงมือถือจึงมีมากตามไปด้วย โดยเฉพาะการนำเกมดังจากฝั่งพีซีมาพัฒนาใหม่ให้สามารถเล่นบนมือถือได้ แม้จะมีข้อจำกัดในระบบการเล่นบางอย่าง แต่ผู้ใช้กลับเลือกความสะดวกสบายมากกว่า เพื่อให้ตนเองเข้าถึงตัวเกมได้ง่ายที่สุด
ปิดให้บริการเร็วเกินไป
ความเป็นไปของเกมแนว MMORPG มักจะถูกผูกไว้กับผู้ให้บริการ และผู้พัฒนาเกมนั้นๆ อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรนั้นผู้เล่นเป็นเพียงผู้ใช้บริการไม่สามารถกำหนดทิศทางของตัวเกมได้ นอกจากข้อติชมเสนอแนะนำที่มอบให้แก่ผู้พัฒนาเกมนำไปแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าเกมออนไลน์หลายๆ เกมจะมีคนเล่นเยอะ แต่ใช่ว่าเกมนั้นจะประสบความสำเร็จ บ่อยครั้งที่มักเห็นเกมออนไลน์ใหม่ๆ ต้องปิดให้บริการอย่างรวดเร็ว เช่น World of Darkness, Everquest Next, และ Shadow Realms เกมเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเกมใหม่ที่กำลังเปิดทดสอบช่วง Beta แต่ท้ายที่สุดยังไม่ทันเปิดให้บริการก็ประกาศปิดตัวลง
หากถามว่า หมดยุคของเกมแนว MMORPG แล้วหรือยัง! สำหรับผมคงต้อบว่า “ยังไม่หมด” เพียงแต่กระแสเกมออนไลน์แนว MMORPG ในปัจจุบันมันซบเซาลงไปเยอะ เมื่อเทียบกับช่วงหลายสิบปีก่อน ประกอบกับเกมใหม่ๆ ในยุคสมัยนี้ขาดแนวคิดหรือไอเดียที่มาสร้างความแปลกใหม่ คุณภาพของเกมมักไปกระจุกอยู่ที่งานภาพกราฟฟิก เพื่อหวังดึงดูดผู้เล่นท้ายที่สุดก็ประสบชาตากรรมเดียวกัน “ปิดให้บริการ” แต่อย่างน้อยทุกๆ ปีก็ยังได้เห็นเกมแนว MMORPG ใหม่ๆ ออกมาสู่สายตาชาวโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังว่าจะมีสักเกมที่เกิดขึ้นมาสร้างกระแสเกม MMORPG ให้กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง
