เริ่มต้นปี 2018 กระแสเกม Fortnite ดูท่าจะมาแรงมากจนหลายสถิติทำให้เกม PlayerUnknown’s Battlegrounds กลายเป็นตัวสำรอง หลังจาก Epic Games ประกาศเปิดตัวโหมด Fortnite Battle Royale ในเดือนกันยายนปีก่อน ได้สร้างความไม่พอใจให้แก่ทีมพัฒนา PUBG Corp เกือบมีการฟ้องร้องทางกฏหมาย และยังทำให้แฟนเกมมองว่า Fortnite ลองเลียนแบบแนวคิดของเกม PUBG อย่างไรก็ตามความนิยมของทั้งสองเกมได้กลายเป็นคู่แข่งกันในตลาดแนวเกม Battle Royale ไปแล้ว
ล่าสุดทาง SuperData องค์กรที่คอยเก็บรวมรวบและวิเคราะห์ข้อมูลตลาดอุตสาหกรรมเกม ยืนยันว่า เกม Fortnite ทำรายได้แซงหน้าเกม PUBG แล้วเรียบร้อย จากสถิติ Fortnite ทำยอดขายได้ถึง $126 ล้านดอลลาร์ มากกว่าเกม PUBG ที่ทำรายได้เพียง $103 ล้านดอลลาร์ ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 หนึ่งในหลายเหตุผลเพราะ Fortnite Battle Royale เปิดให้เล่นฟรีเข้าถึงง่ายกว่าเกม PlayerUnknown’s Battlegrounds ที่ต้องจ่ายก่อน $30 ถึงจะสามารถเข้าเล่นเกมได้
“Fortnite กลายเป็นเกมที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มเด็กๆมากขึ้น เพราะระบบเกมมีวิธีการเล่นเรียนรู้เข้าใจง่าย และองค์ประกอบภาพกราฟฟิกแบบตัวการ์ตูนเป็นมิตรกับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดตัวเกมบนมือถือได้ดึงดูดกลุ่มผู้เล่นช่วงวัยรุ่นได้อย่างดี” ในรายงานตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่ผู้เล่นจำนวนไม่น้อยเลิกเล่นเกม PUBG เพราะความล้มเหลวในการป้องกันโปรแกรมช่วยเล่นภายในเกม กลายเป็นอุปสรรคของผู้พัฒนาแทนที่จะทุ่มเทเร่งสร้างเนื้อหาใหม่ แต่กลับทุ่มเวลาส่วนใหญ่กับการป้องกันโปรโกง
นอกจากนี้การเปิดตัวเกม Fortnite ในช่วงแรกสามารถเข้าถึงได้ทั้งบน PC และ Console รองรับการเล่นข้ามแพลตฟอร์มเหมือนอยู่ในโลกเดียวกัน ฐานผู้เล่นเลยขยายตัวอย่างรวดเร็ว และยิ่งเป็นการตอกย้ำความร้อนแรงของเกมอีกครั้งกับการเปิดตัวรุ่น Mobile ถึงแม้จะเปิดให้ทดลองเล่นแบบจำกัดจำนวนผู้เล่น แต่จากรายงานล่าสุดตัวเกมรุ่น iOS ทำรายได้ไปแล้วกว่า $1.5 ล้านดอลลาร์ เห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกเป็นห่วงอนาคตของเกม PUBG เฉพาะฐานคนเล่นในฝั่งตะวันตกและยุโรป
อ่านข่าวเกม Fortnite คลิกที่นี่
ที่มา – https://goo.gl/48qDtJ