อย่างที่ทราบกันดีเรื่องแฮ็กเกอร์หรือผู้ใช้โปรแกรมช่วยเล่นในเกมพับจี PlayerUnknown’s Battlegrounds เป็นปัญหาเรื้อรังแก้ยังไงก็ไม่หาย บทลงโทษสูงสุดถึงขั้นแบนไอดีไม่เคยทำให้กลุ่มแฮ็กเกอร์เกรงกลัวแต่อย่างใด เพราะมีช่องทางการหลบเลี่ยงกลับมาสร้างความวุ่นวายใหม่ อย่างไรก็ดีแนวโน้มของผู้ใช้โปรแกรมช่วยเล่นในปี 2018 ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน ทาง Brendan Greene ผู้กำกับและผู้สร้างเกม PUBG บอกเอง “จำนวนผู้ใช้โปรแกรมโกงหรือแฮกเกอร์ลดน้อยลง”
Greene ได้พูดคุยกับสื่อในงาน PUBG Global Invitational เผยว่า “ทุกวันนี้อาจพบผู้ใช้โปรแกรมช่วยเล่นอยู่บ่อยครั้ง แต่สถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คุณคิด แนวโน้มเริ่มดีขึ้นโดยเรากำลังเปิดใช้ระบบใหม่เพื่อลดจำนวนผู้ใช้โปรโกงฯให้มากที่สุด ทีมงานยังคงมุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับการแข่งขันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมต่อผู้เล่นทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าต้องการให้เกม PUBG ประสบความสำเร็จในวงการ eSport”
เป้าหมายของผู้ใช้โปรแกรมช่วยเล่นส่วนใหญ่มุ่งเน้นการเอาชนะสร้างความได้เปรียบเทียบในการแข่งขัน ไม่เว้นแม้กระทั้งเหล่าสตรีมเมอร์ชื่อดังที่ต้องเจอกับแฮกเกอร์อยู่เป็นประจำ เหตุการณ์ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นกับคนดัง Shroud ด้วยความสามารถระดับมือโปรมีผู้ชมไลฟ์สตรีมหลักหมื่นคน และมักโดน Stream Snipe อยู่บ่อยครั้ง แต่คราวนี้โดนป่วนโดยแฮกเกอร์และ Shroud ก็พยายามเล่นสนุกร่วมมือกับผู้ใช้โปรโกงฯ สุดท้ายเจ้าตัวต้องแตะเบรคปลีกตัวออกมาทันที อย่างไรก็ตามความผิดพลาดในครั้งนี้ทำให้ Shroud โดนแบนเป็นเวลาหนึ่งเดือน
นอกเหนือจากความวุ่นวายของแฮกเกอร์แล้วเกม PUBG ยังเผชิญกับปัญหาความไม่เสถียรของเซิร์ฟเวอร์และบัคที่เกิดขึ้นภายในเกม เราจึงได้เห็น topic มากมายบนกระดานสนทนาของชุมชนเกมพับจี โดยทาง Greene เผยว่า “ตอนนี้ตัวเกมได้ดำเนินการอัพเดทและปรับปรุงแก้ไขเป็นแพทช์ลำดับที่ 18 นับตั้งแต่เกมออกจาก Early Access ข้อบกพร่องหลายอย่างลดลงอย่างเห็นได้ชัด แม้เราจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลปัญหาดังกล่าว แต่การแก้ไขถือเป็นงานที่ยากมาก ทั้งนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ดีที่นำไปสู่การพัฒนาบางอย่างในอนาคต
