นักพัฒนาเกมต่างยกเครดิตให้ผู้สร้างเกม PlayerUnknown’s Battleground ได้จุดประกายระบบเกมที่เรียกว่า Battle Royale สร้างความท้าทายให้กับผู้เล่น 100 คนในการแข่งขันเพื่อเฟ้นหาผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว ซึ่งความนิยมของเกม PUBG ได้สร้างสถิติใหม่หลายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกวีดีโอเกมจนกลายเป็นกระแสพับจีฟีเวอร์อยู่พักใหญ่ แต่เส้นทางก้าวไปข้างหน้าไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะต้องเผชิญกับปัญหาหลายด้าน และคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นในตลาดเกมแนวเดียวกันกำลังเขย่าบัลลังก์เกม PUBG กลายเป็นวิกฤตด้านฐานผู้เล่นเริ่มหดหายไปอย่างต่อเนื่อง
“อย่าลืม ถูกใจแฟนเพจ GameMonday ไว้ด้วยนะ”
PlayerUnknown’s Battleground เปิดให้บริการเมื่อช่วงกลางปี 2017 อัตราการเติบโตของผู้เล่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความนิยมเป็นพลุแตกได้ดึงดูดผู้เล่นจีนเข้ามาเป็นจำนวนมากจนทำลายสถิติยอดผู้เล่นออนไลน์พร้อมกันสูงสุดกว่า 3 ล้านคนบนแพลตฟอร์ม Steam ขณะเดียวกันได้นำมาซึ่งปัญหาผู้ใช้โปรแกรมช่วยเล่นภายในเกมกลายเป็นแรงกดดันให้ทีมพัฒนา PUBG Corp. เร่งแก้ไขและหาทางออกอย่างการจับมือกับค่าย Tencent เปิดเซิร์ฟเวอร์เฉพาะในประเทศจีน (หวังลดจำนวนผู้ใชโปรโกงฯบน Steam) รวมถึงให้สิทธิ์พัฒนาเกมมือถือ
Fortnite ถือกำเนิด
แน่นอนว่าหลังจาก PUBG เซิร์ฟฯจีนเปิดให้บริการส่งผลต่อฐานผู้เล่นบน Steam เริ่มลดลงนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 อาจจะเกิดจากปัจจัยอื่นด้วยเช่นกันอย่างการเปิดตัว PUBG Mobile เวอร์ชั่นเกมมือถือประสบความสำเร็จไม่แพ้เวอร์ชั่นพีซี แต่ทั้งหมดยังส่งผลดีต่อทีมพัฒนา PUBG Corp. จนกระทั่งการถือกำเนิดของเกม Fortnite Battle Royale จากค่าย Epic Games ทำให้อะไรหลายอย่างเริ่มเปลี่ยนไป ด้านค่าย Tencent (พันธมิตรหลักของ PUBG และ Epic Games) เริ่มหันไปให้ความสนใจเกม Fortnite มากขึ้นด้วยการทุ่มงบเพื่อผลักดันเกมในจีน
ต้องยอมรับว่าเกม Fortnite Battle Royale ได้ส่งผลกระทบต่อเกม PlayerUnknown’s Battleground อย่างเห็นได้ชัด ฐานคนเล่นฝั่งตะวันตกยุโรปเริ่มหดหาย เหล่าสตรีมเมอร์ชื่อดังหันไปเล่นเกม Fortnite เป็นหลักและนั้นย่อมส่งผลต่อฐานคนดูจนกลายเป็นเกมกระแสแรงของปี 2018 แต่นั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเพราะในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ เกม PUBG ยังต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เป็นเกมซีรี่ย์ระดับโลกมีฐานแฟนเกมดั้งเดิมอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก
การมาของเกม Battlefield 5 และ Black Ops 4
คุณน่าจะเป็นหนึ่งในเกมเมอร์หลายคนหรือทั่วโลกที่กำลังรอคอยเกมซีรี่ย์ชื่อดังภาคใหม่อย่าง Battlefield 5 และ Call of Duty: Black Ops 4 นอกจากผู้เล่นจะได้สัมผัสเนื้อหาใหม่ ฉากต่อสู้สุดอลังการระเบิดภูเขา เผากระท่อม ดื่มด่ำกับบรรยากาศภาพกราฟฟิกสวยงามสมจริง แต่สิ่งที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากกว่าทุกภาคนั้นก็คือ DICE ทีมพัฒนา Battlefield 5 และ Treyarch ทีมพัฒนา Black Ops 4 ยืนยันว่าตัวเกมจะมีโหมด Battle Royale ตามกระแสโลกโดยระบบเกมจะแตกต่างออกไปในแบบของตัวเอง แค่นี้ก็พอจะสั่นคลอนฐานคนเล่น PUBG ได้บ้างว่ามั้ย
ครึ่งปีหลัง 2018 ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายของเกม PlayerUnknown’s Battleground จะสามารถรักษาฐานคนเล่นไว้ได้มากแค่ไหน ผลของเกมออกแคมเปญ Fix PUBG จะช่วยยกระดับคุณภาพของเกมได้มากน้อยเพียงใด แม้เกมพับจียังครองบัลลังก์อันดับ 1 เกมยอดนิยมบนแพลตฟอร์ม Steam แต่คงไม่ใช่เบอร์หนึ่งของตลาดเกมประเภท Battle Royale อีกต่อไป หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเจอแรงกระแทกจากคู่แข่งทั้งเก่าและใหม่ แล้วเพื่อนๆมีความเห็นเป็นเช่นไรกับความนิยมของเกม PUBG จะอยู่รอดไปจนถึงปี 2019 หรือไม่?