HyperX แบรนด์ Gaming Gear สีแดงดำชั้นนำระดับโลกที่เราจะเห็นว่าพวกเขาได้มีการเปิดตัวอุปกรณ์สำหรับเกมเมอร์รุ่นใหม่ๆ ตลอดทั้งปีไม่ว่าจะเป็น เมาส์, คีย์บอร์ด และ หูฟัง แต่ครั้งนี้ HyperX ขอตีตลาด Streaming ด้วยสินค้าใหม่ที่เปิดเร็วๆ นี้อย่าง Webcam ตัวแรกของทางค่ายในชื่อรุ่น HyperX Vision S เป็นกล้องสำหรับสตรีมเมอร์อย่างแท้จริงด้วยคุณสมบัติดีพร้อมตอบทุกโจทย์ในการถ่ายทอดสด GameMonday ของเราจะพาไปชมรีวิวคร่าวๆ ว่ารุ่นนี้ดียังทำไมถึงไม่ควรพลาด แอบกระซิบเลยว่าราคาเจ้าตัวนี้อยู่ที่เพียง 6,990 บาทเท่านั้น
เจ้ากล้อง HyperX Vision S ตัวนี้ได้เซนเซอร์จากค่ายรุ่นใหญ่ Sony อย่าง Sony Starvis™ IMX415 ที่มอบความละเอียดสูงสุดถึง 4K กันเลยทีเดียว แน่นอนว่ายังสามารถปรับรายละเอียดส่วนอื่นๆ ได้ด้วยเช่นเดียวกันเดียวทางเราจะพาไปชมกันแบบเจาะลึกแน่นอน ดังนั้นบอกเลยว่าเป็น Webcam ที่ตอบโจทย์สำหรับเกมเมอร์อย่างแน่นอนยิ่งใครที่กำลังจะเริ่ม Streaming เป็นทางเลือกที่ไม่เลว
ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์ทั้งหมด 2 อย่างก็คือตัวกล้อง HyperX Vision S กับสายเชื่อมต่อแบบ USB ที่เป็นสายถักซึ่งมีความทนทานสูง สามารถใช้งานได้นานนั่นเอง ตรงตัวกล้องจะมีผาสำหรับปิดตัวเลนส์กล้องติดมาให้ด้วย ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถไว้สำหรับเปิดปิดหลังจากการใช้งาน แต่ข้อควรระวังก็คือ “ระวังหาย” เพราะมันเป็นแม่เหล็กบางครั้งอาจจะลืมหรือหล่นหายไปได้ ดังนั้นควรเก็บไว้ในที่ๆ หาเจอได้ง่าย
การวางหรือเชื่อมต่อสามารถทำได้ด้วยกันสามรูปแบบก็คือ แบบที่หนึ่งวางบนโต๊ะปกติเพราะตัวกล้องสามารถปรับมุมมองขึ้นลงได้อิสระ แบบที่สองคือการวางไว้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งตัวกล้อง HyperX Vision S จะมียางพิเศษที่ช่วยยึดเกาะกับหน้าจอให้มั่นคง แบบที่สามก็คือเชื่อมต่อกับหาตั้งกล้องเพื่อวางในตำแหน่งที่เหมาะสมนั่นเอง ดังนั้นห้องมีลักษณะแบบไหน สามารถจัดได้ตามไลฟ์สไตล์เลย
สำหรับใครที่คิดว่าการใช้กล้องระดับนี้จะใช้งานยากบอกเลยว่าคุณกำลังคิดผิดเป็นอุปกรณ์ Webcam ที่ใช้งานง่ายมากๆ เพียงแค่เสียบสาย USB กับคอมพิวเตอร์ก็สามารถใช้งานได้แล้วแต่หากอยากปรับรายละเอียดอื่นๆ สามารถใช้งานผ่านโปรมแกรม HyperX NGENUITY ที่เป็น Driver ของอุปกรณ์จากค่าย HyperX
เพื่อนๆ สามารถปรับแต่งได้หลายหลากแต่ไฮไลท์ที่น่าสนใจที่สุดก็คือการปรับ Resolution ของกล่องได้ตั้งแต่ 3840×2160 หรือก็คือความละเอียดระดับ 4K มาพร้อมกับ 30 FPS แล้วก็มาตราฐานกล้องปัจจุบันก็คือ 1920×1080 หรือFull HD ที่จะมี 60 FPS นั่นเองทำให้ภาพดูสมูทหลื่นไหลน่าจะเป็นค่านิยมในปัจจุบันการเลือก Resolution นี้เพื่อถ่ายทอดสด
ส่วนลูกเล่นอื่นๆ ก็มีให้เลือกใช้มากมายไม่ว่าจะเป็นการปรับแสงสีตามความชื่นชอบหรือเพิ่มฟีเจอร์พิเศษที่ให้เราปรับภาพต่างๆ ได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นการ Focus, Exposure และ White Balance ซึ่งหากใครปรับแต่งไม่เก่งสามารถตั้ง Auto ได้ นอกเหนือจากนั้นตัวซอฟต์แวร์ยังจะช่วย การเปิดรับแสง การซูม และการชดเชยแสงน้อยให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย ยังมีโหมดของกล้องให้เลือกปรับ เช่น เต็มแบบฟูลเฟรม หรือ โฟกัสหน้า ก็สามารถเลือกได้
ความรู้สึกหลังใช้งาน
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวผู้ทดลองไม่ได้ใช้ Webcam เป็นประจำอยู่แล้วดังนั้นเรื่องความรู้เกี่ยวกับการใช้งานบอกเลยว่าน้อยมากๆ แต่สำหรับ HyperX Vision S เป็นอะไรที่เหมาะสำหรับมือใหม่มากๆ เพียงแค่เสียบใช้งานวางในตำแหน่งที่ต้องการแล้วก็ใช้งานผ่านโปรแกรมได้เลยอย่าง Teams, Zoom, OBS หรือ Discord ก็ได้
ด้านการตอบสนองก็ทำออกมาได้เป็นอย่างดีรวดเร็วจับทั้งบุคคลและภาพสภาพแวดล้อมได้เร็ว แล้วสิ่งที่ชื่นชอบเป็นพิเศษก็คือตัวเครื่องใช้วัสดุจากอะลูมิเนียมมีความทนทานด้านอายุการใช้งานน่าจะไว้ใจได้เลย นอกจากนั้นยังมี Mixer และ หาจับไมล์และกล้องมาให้สำหรับเกมเมอร์ที่อยาก Streaming อีกด้วย หากใครสนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์หลัก [ลิงค์นี้]
