ทุกวันนี้คำว่า “เกม” เป็นสิ่งที่ยอมรับในสังคมระดับนึงแล้ว ทั้งในรูปแบบเกมพีซีหรือว่าเกมโทรศัพท์มือถือต่าง ก็มีเกมออกมาใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องสามารถตอบสนองผู้เล่นได้อย่างหลากหลาย และเข้าถึงเหล่าเกมเมอร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งการเล่นเกมก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ที่ว่า ผู้เล่นแต่ละคนจะหาประโยช์จากเกมในด้านไหนบ้าง เพราะเกมสามารถช่วยเสริมทักษะ ฝึกภาษาแล้วอื่นๆ อีกมากมายถ้าคุณใช้อย่างถูกวิธี แต่ก็มีคนไม่น้อยที่กำลังจะก้าวเข้าสู่คำว่า “ติดเกม” โดยวันนี้ GameMonday จะนำเสนอ 5 สัญญาณบ่งบอกว่าคุณใกล้จะติดเกมแล้ว
1.คิดถึงแต่เรื่องเกม
อาการเริ่มแรกของคนที่กำลังจะ “ติดเกมใหม่ๆ” ก็จะไม่มีอะไรมากเพียงแต่จะคิดถึง เรื่องของเกมที่ตัวเองเล่นอยู่ขณะนั้นบ่อยๆ ไม่ว่าเวลาจะทำอะไรก็อยากจะเล่นเกม หรือว่าไม่ได้เล่นแล้วก็จะเกิดอาการ หงุดหงิด กระวนกระวาย ทำอะไรก็รู้สึกขัดหูขัดตาไปหมด นั่นคืออาการของคนที่กำลังจะติดเกมแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่าเกมมันไม่ดีนะ แต่การที่เราทำอะไรมากเกินไปมันก็ไม่ดี แล้วเกิดผลเสียตามมาทีหลังได้
2.อยู่กับเกมเป็นเวลานาน
การเล่นเกมถือว่าเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่ง เพราะมนุษย์เราทุกคนก็มีวิธีผ่อนคลายที่แตกต่างกันเป็นของตนเองแล้วมีคนจำนวนคนไม่น้อยที่เลือกเกมเป็นการพักผ่อน แต่ปกติการพักผ่อนโดยการเล่นเกมสัก 1-3 ช.ม ก็ถือว่ากำลังดีไม่น้อยและไม่เยอะจนเกินไป แต่ถ้าเล่นเกิน 6 ช.ม ขึ้นไปต่อวันต้องคิดใหม่แล้ว เพราะนั้นคืออาการของคนที่กำลังจะ “ติดเกม” ต้องระวัง
3.เวลาคุยกับเพื่อนก็จะคุยเรื่องเกม
เมื่อเราติดเกมอะไรมากๆ ไปซักพักแล้วเข้าใจเนื้อหาของเกมที่เล่นและสนุกไปกับมันทีนี้ เราก็อยากแบ่งปัน ทักษะ ความรู้ ความคิด ทัศนคติ ของตนเองมาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ ที่เป็นเกมเมอร์เหมือน โดยที่ทุกการสนทนาจะเป็นการคุยแต่เรื่อง “เกม” นั่นก็คืออีกหนึ่งสัญญาณแล้วว่าคุณกำลังที่จะติดเกมอยู่ เพราะในหัวข้อนี้มันจะเชื่อมโยงไปกับ ข้อแรก เพราะเราคิดแต่เรื่องเกมทำให้เวลาหาคนคุยก็อยาก มีคนที่คุยเรื่องเกมกับเรารู้เรื่องนั่นเอง
4.เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์
เกมเมอร์หลายๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า “หัวร้อน” เป็นศัพท์ของวงการเกมที่เวลาเล่นเกมแล้วเกิดอาการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เช่น เล่นเกมไม่ได้อย่างใจ มีคนพูดถูกในเกมแล้วเกิดอารมณ์โมโหระหว่างเล่นเกม เพราะเคยมีงานวิจัยว่า เกมจะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ของผู้เล่นให้มีความก้าวร้าว รุนแรงมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการที่เราตั้งใจทำอะไรสักอย่างก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ตัวเกมเมอร์ก็ต้องรู้จักว่าอะไรที่กำลังดีไม่เยอะและไม่มากเกินไป และการควบคุมอารมณ์ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเลยถ้าคุณอยากเป็นนักกีฬา eSports
5.มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเกมมากขึ้น
หัวข้อสุดท้ายนี้ถือว่าอันตรายเลยทีเดียว คือการที่มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเกมมากขึ้น หรือถ้าจะให้ยกตัวอย่างง่ายๆ คือซื้อเกมบ่อยขึ้น เยอะขึ้น แพงถูกไม่สนใจ เติมเงินเกมตลอดเวลาไม่ว่าจะเล่นเกมอะไร นี้ก็คือสัญญาณบอกแล้วว่าคุณกำลังติดเกม เพราะการที่นำเงินมาใช้จ่ายเกี่ยวกับเกมบ่อยๆ เราต้องดูกำลังทรัพย์ของเราด้วยว่าไหวแค่ไหน จ่ายเท่านี้แล้วสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติหรือไม่เดือดร้อนแบบนั้นโอเค ซึ่งผมไม่ค่อยเป็นห่วงในเรื่องนี้สำคัญคนวัยทำงานเท่าไหร่เพราะเขาสามารถตัดสินใจเองได้อยู่แล้วว่าแค่ไหนไหว แต่สำหรับเด็กๆ เยาวชนที่ยังไม่สามารถหาเงินเองได้ถือว่าน่าเป็นห่วงมาก
