อย่างที่ทราบกันดีว่า Call of Duty: Black Ops 4 มีโหมดชูโรงอย่าง Blackout ตามกระแสนิยมแนวเกม Battle Royale ทุกครั้งที่เปิดให้เล่นในช่วง Beta เสียงตอบรับจากผู้เล่นส่วนใหญ่ชื่นชอบมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน อาจจะไม่แปลกที่จะถูกหยิบนำไปเทียบกับเกม PUBG อย่างไรก็ตามภาพรวมหรือแก่นแท้ของเกม Black Ops 4 เน้นความหลากหลายของโหมด Multiplayer มากกว่าจึงไม่ใช่คู่แข่งตัวจริงของเกม PlayerUnknown’s Battlegrounds เมื่อเทียบกับเกม Fortnite แต่ประเด็นก็คือ “Black Ops 4 สร้างแรงกระแทกต่อ PUBG มากแค่ไหน!”
การเปิดเกมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Call of Duty: Black Ops 4 ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้เล่นทั่วโลกรวมถึงสตรีมเมอร์ชื่อดังอย่าง Ninja, Shroud, และ Dr Disrespect จนยอดคนดูบน Twitch ของเกม Black Ops 4 พุ่งแรงรวมกันสูงสุด รวมถึงการทำยอดขายแบบดิจิทัลดาวน์โหลดในวันแรกของ Activision แต่สถิติดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อเกม PlayerUnknown’s Battlegrounds ในด้านฐานผู้เล่นมากนัก จากการติดตามสถิติของ githyp ในช่วงสุดสัปดาห์ฐานคนเล่น PUBG บนแพลตฟอร์ม Steam ลดลงแค่ 4% เท่านั้น
ซึ่งตัวเลข 4% คิดเป็นยอดคนเล่นราว 24,000 คนที่หายไปในช่วงสัปดาห์ที่เกม Call of Duty: Black Ops 4 เปิดให้เล่นแบบเป็นทางการ (น้อยกว่าสัปดาห์ก่อนด้วยซ้ำ) แต่หากเทียบกับเดือนพฤษภาคมปี 2017 ฐานผู้เล่นหายไปกว่า 20% ถือเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดนั้บตั้งแต่เปิดตัวเกม จึงมั่นใจได้ว่าการมาของเกม Black Ops 4 สร้างผลกระทบต่อเกม PUBG ได้น้อยมาก เห็นได้ชัดด้านฐานคนเล่นบนแพลตฟอร์ม Steam ยังคงแข็งแกร่ง ถึงแม้มีหลายปัญหารุมเร้าตลอดระยะเวลาหนึ่งปีจนโดนคนเล่นบ่นทั่วบ้านทั่วเมือง
ถึงตรงนี้ Call of Duty: Black Ops 4 ได้พิสูจน์ความสำเร็จในด้านการนำเสนอโหมดเกมที่หลากหลาย ส่วนจะยืนระยะยาวได้นานแค่ไหนคงต้องติดตามกันต่อไป แต่ยังไม่ใช่คู่แข่งตัวจริงเมื่อเทียบกับเกม Fortnite ที่สร้างผลกระทบต่อเกม PUBG ได้มากกว่า โดยเฉพาะการดึงฐานคนเล่นฝั่งยุโรปตะวันตก บางทีการมาของเกม Battlefield V ที่มาพร้อมโหมดเกม Battle Royale อาจจะสร้างหายนะให้แก่ PUBG ถ้าการพัฒนารวมถึงตัวเกมยังมีปัญหาเหมือนกับกำลังทำลายตัวเองไม่ต้องไปมองคู่แข่งอื่น
