ก่อนหน้านี้ Gabe Newell ผู้ก่อตั้ง Valve ได้ออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ความล้มเหลวของเครื่อง Steam Machine ทำให้ Steam Deck ถือกำเนิดขึ้นมาได้สำเร็จ เพราะมันสอนให้ทาง Valve รู้ว่าควรสร้างฮาร์ดแวร์ด้วยตัวเอง ดีกว่าไปให้บริษัทอื่นทำให้ เพราะสุดท้ายทาง Valve ต้องทำทุกอย่างเองทั้งหมด
Steam Deck ถือเป็นวิวัฒนาการของเครื่อง PC มันไม่ต่างจากเครื่อง PC พกพา ที่เราสามารถเล่นเกม PC ได้อิสระในทุกที่ ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ (399 ดอลลาร์) มันแตกต่างจากแว่น VR อย่าง Valve Index ที่เน้นไปทางตลาดไฮเอนด์มากกว่า และต้องยกระดับในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะประสบการณ์ด้าน VR ซั่นเป็นนวัตกรรมยุคใหม่ ส่วน Steam Deck คือการย่อส่วนเครื่อง PC มาเป็นเครื่องเกมพกพาเท่านั้นเอง
Gabe เผยว่าลูกค้ากลุ่มแรกของ Steam Deck จะเน้นซื้อเครื่องที่มีความจุสูงที่สุดเท่านั้น ซึ่งผิดจากที่ทางทีมคาดไว้มาก เพราะพวกเขาคิดว่าจะมีคนซื้อเครื่องรุ่นที่ถูกที่สุดมากถึง 60-70% แต่กลายเป็นเครื่องที่แพงที่สุดที่ขายได้มากกว่า
ตอนนี้เครื่อง Steam Deck ได้วางจำหน่ายออกมาแล้ว สื่อหลาย ๆ เจ้าเผยว่าเครื่องเกม Steam Deck มีขนาดที่ใหญ่กว่า Nintendo Switch มาก ไม่เหมาะกับการพกไปไหนมาไหนด้านนอก มันมีลักษณะเป็นเครื่อง PC ย่อส่วนมากกว่าเครื่องเกมพกพา แต่มันมีสเปกที่สูงพอจะเล่นเกม PC ใหม่ ๆ ในระดับ 30 fps หรือ 60 fps ได้ รองรับเกม PC จำนวนมาก ทางผู้พัฒนาไม่จำเป็นต้องดัดแปลงเกมมากกว่าที่คิด มีการควบคุมหลากหลาย ใช้ได้กับเกมทุกประเภท
อย่างไรก็ตาม Steam Deck ยังมีปัญหาเรื่องหน้าจอที่คุณภาพยังไม่โอเค แบตไม่อึด ใช้ได้ขั้นต่ำสุดที่ 2 ชั่วโมง ร้อน พัดลมดัง ระบบยังไม่เสถียร มีบั๊กและแครชเกิดขึ้นเยอะ และเกมดัง ๆ หลายเกมยังเล่นไม่ได้
อ่านข่าวเกม Steam Deck คลิกที่นี่
แหล่งที่มา arstechnica.com