HoYoverse ได้ประกาศในวันนี้ว่า Genshin Impact เวอร์ชัน 3.2 “Akasha ปลุกปั่น เปลวเพลิงลุกโชน” จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พฤศจิกายน ในการอัปเดตครั้งนี้ เนื้อเรื่องหลักของ Sumeru จะสิ้นสุดลงที่จุดไคลแม็กซ์ เพื่อนพ้องในท้องถิ่นซึ่งรวมไปถึง Nahida และ Layla จะเข้ามาเป็นตัวละครที่สามารถเล่นได้ในเกม ขณะเดียวกัน คู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามและกิจกรรมสุดสนุก เช่น การจับและฝึก Fungus ก็พร้อมที่จะเสริมประสบการณ์การผจญภัยของผู้เล่นในโลกแฟนตาซีของ Teyvat
หลังจากที่ผ่านพ้น “เทศกาล Sabzeruz” และการเดินทางอันน่าตื่นเต้นในทะเลทรายแล้ว ในที่สุดเควสต์เทพเจ้า Sumeru ก็ดำเนินมาถึงบทสุดท้าย “Akasha ปลุกปั่น เปลวเพลิงลุกโชน” ในขณะที่นักเดินทางกำลังร่วมมือกับตัวละครอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือ Nahida จากแผนการชั่วร้ายของ The Doctor และสถาบัน ผู้บริหารของ Fatui คนที่สามก็ได้เข้ามาขัดขวางพวกเขาในฐานะบอส ระหว่างที่ต่อสู้กับบอสสุดแกร่ง The Balladeer จะแปลงร่างเป็นหุ่นเชิดขนาดใหญ่ที่มีสองรูปแบบและความสามารถทางธาตุมากมาย ทว่าอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ลอยอยู่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการพลิกสถานการณ์ก็ได้
ขณะเดียวกัน Nahida เทพแห่งพฤกษาองค์ปัจจุบันได้กลายเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ของนักเดินทางตลอดเนื้อเรื่องหลัก และเธอจะกลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่เล่นได้เช่นเดียวกับ Layla ตัวละครจาก Sumeru อีกคนหนึ่ง โดย Nahida จะเข้าสู่เกมในฐานะตัวละคร 5 ดาวซึ่งเป็นผู้ใช้สื่อเวทธาตุไม้ เธอสามารถกดสกิลธาตุค้างไว้เพื่อเล็งด้วยท่าทางคล้ายการมองผ่านช่องของกล้องถ่ายรูป ซึ่งจะทำเครื่องหมาย, เชื่อมโยงและสร้างความเสียหายไม้เพิ่มเติมแก่ศัตรู พลังของเธอจะเพิ่มขึ้นไปอีกขั้นเมื่อร่วมทีมกับตัวละครธาตุไฟ, ธาตุไฟฟ้าและธาตุน้ำ ส่วน Layla เป็นนักเรียนของสถาบันที่ศึกษาวิจัยทางด้านโหราศาสตร์ ซึ่งสามารถแสดงพลังอันแท้จริงผ่านการเดินละเมอ ในการต่อสู้ Layla จะใช้ดาบและพลังธาตุน้ำแข็ง อีกทั้งยังสามารถสร้างโล่และเสริมความเสียหายน้ำแข็งให้ทีมได้ ทั้งนี้ Nahida จะปรากฏตัวในกิจกรรมอธิษฐานช่วงต้นของเวอร์ชัน 3.2 พร้อมกับการรีรันของ Yoimiya ส่วน Layla จะปรากฏตัวในกิจกรรมอธิษฐานช่วงหลังพร้อมกับการรีรันของ Yae Miko และ Tartaglia
กิจกรรมและเกมเพลย์ใหม่ ๆ กำลังรอผู้เล่นอยู่เช่นกัน โดยหนึ่งในนั้นคือการแข่งขัน Fungus “การแข่งขันสุดยอดเห็ดอัจฉริยะ” โดยที่ผู้เข้าร่วมสามารถจับและฝึก Fungus เพื่อใช้ต่อสู้ในการท้าทายต่าง ๆ ส่วนอีกกิจกรรมหนึ่งคือ “บททดสอบนักผจญภัย” ที่ได้เตรียมบททดสอบบางอย่างเอาไว้ ซึ่งสามารถสำเร็จได้ด้วยการทดลองใช้ตัวละคร เช่น ใช้การโจมตีของ Yanfei หรือ Klee เพื่อสร้างปฏิกิริยาโอเวอร์โหลด เพื่อผลัก Slime ให้เข้าไปในประตู นอกจากนี้ ในที่สุด Dendro Hypostasis ก็ได้เติมเต็มชิ้นส่วนสุดท้ายของตระกูล Hypostasis ให้สมบูรณ์ โดยจะปรากฏตัวในฐานะบอสโลก และส่วนหนึ่งของกิจกรรม “บทแห่งซิมโฟนี”
จะมีการปรับปรุงเพื่อยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมในปัจจุบันให้ดีขึ้น โดยฟังก์ชัน “แบบจำลอง” ที่รอคอยกันมานานจะถูกนำมาใช้ในระบบ Serenitea Pot เพื่อให้ผู้เล่นสามารถแชร์การออกแบบอาณาจักร หรือนำเอาแบบจำลองผลงานของผู้อื่นมาใช้กับ Serenitea Pot ของตนเองได้ นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มภาษาอิตาลีและภาษาตุรกีเข้ามาในการตั้งค่าภาษาของเกมตั้งแต่เวอร์ชัน 3.3 เป็นต้นไป
